แอบส่องโควต้า ‘ฟุตบอลโลก’ 2026

ทุกสุดสัปดาห์ที่ไม่มีโปรแกรมการแข่งขันในระดับสโมสร ก็จะเป็นคิวของเกมระดับนานาชาติ และแน่นอนว่าช่วงนี้ก็เป็นการแย่งชิงสิทธิ์ของแต่ละชาติที่จะได้ไปร่วมโม่แข่งในเวทีที่ยิ่งใหญ่ที่สุดอย่าง ‘เวิร์ลคัพ’ ในปีหน้า
ฟุตบอลโลก 2026 ถือเป็นครั้งที่ 23 แล้วสำหรับมหกรรมการแข่งขันเพื่อชิงความเป็น ‘จ้าวโลก’ ของฟุตบอลชายในทุก ๆ 4 ปี และครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกที่มีเจ้าภาพร่วมกันถึง 3 ประเทศ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา, แคนาดา และ เม็กซิโก
นอกจากนี้แล้วยังเป็นหนแรกที่เพิ่มทีมที่ได้รับสิทธิ์เข้าร่วมมาเป็น 48 ทีม จากเดิม 32 ทีม ซึ่งแน่นอนว่าทำให้โควต้าของแต่ละทวีปได้มีการเปลี่ยนแปลงไปด้วยเช่นเดียวกัน
ด้วยระยะเวลาที่เหลืออีกเพียง 1 ปีกว่า ๆ มหกรรมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของโลกฟุตบอลก็จะเริ่มต้นขึ้นแล้ว ทำให้หลายทวีปได้มีการแข่งขันเพื่อแย่งสิทธิ์ไปกันบ้างแล้ว และจนถึงตอนนี้ (วันที่ 22 มีนาคม) ก็มีเพียงชาติเดียวนอกเหนือจาก 3 ชาติเจ้าภาพ ที่ได้การันตีไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นั่นก็คือทีมชาติญี่ปุ่นนั่นเองครับ
ดังนั้นจึงขอเริ่มต้นกันที่ทวีปเอเชียเลยก็แล้วกันครับ
เอเชีย ได้โควต้าเพิ่มมาเป็นเท่าตัวจากเมื่อคราวก่อน โดยได้สิทธิ์ถึง 8+1 จากเดิมที่ได้ 4 ที่นั่ง และตอนนี้ก็ดำเนินมาถึงการคัดเลือกรอบที่ 3 แล้วและจะได้ 6 ทีมที่เข้าไปรอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติ นอกเหนือจาก ญี่ปุ่น ที่ฉลุยไปเป็นทีมแรก ก็จะมีทีมอย่าง อิหร่าน, อุซเบกิสถาน และ เกาหลีใต้ ที่ใกล้จะคว้าตั๋วได้แล้วในเต็มที
ส่วนอีก 2 โควต้า ก็ต้องไปแย่งกันต่อในรอบ 4 และอีกโควต้าก็ต้องไปเพลย์ออฟเพื่อฟาดฟันกับทีมจากต่างทวีป
ตามมาด้วย แอฟริกา ที่ได้ 9+1 โควต้า โดยใช้ระบบการแข่งขันแบบกลุ่มและแบ่งเป็น 9 กลุ่ม ซึ่งจะเอาแชมป์กลุ่มเข้ารอบสุดท้ายโดยอัตโนมัติไปเลย ซึ่งทีมเต็งที่ดูจากตารางคะแนนก็คงหนีไม่พ้น อียิปต์ และ โมร็อกโก ส่วนโควต้าสุดท้ายก็จะคัดเลือกจากอันดับ 2 ที่ดีที่สุด 4 ทีมไปห้ำหั่นกันเอง และไปวัดกับทีมอีกจากสักทวีปหนึ่ง
ทางด้านของทวีปเจ้าภาพอย่างโซนอเมริกาเหนือและกลาง ก็จะได้เพิ่มมาอีก 3 ที่นั่งนอกเหนือจาก 3 ทีมเจ้าภาพที่เข้าไปนั่งจับจองเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีของทีมหน้าใหม่ ๆ ที่จะได้โอกาสนี้ และยังเป็นทวีปเดียวที่จะได้สิทธิ์เพลย์ออฟกับทีมต่างทวีปถึง 2 โควต้าอีกด้วย
อย่างไรก็ตาม ในเวลานี้ยังคงมองไม่ออกว่าทีมไหนจะคว้าตั๋วไปได้ เนื่องจากยังคงอยู่ในรอบของการคัดเลือกเพื่อหาตัวแทนไปสู้กันต่อในรอบที่ 3 ซึ่งเป็นรอบของการหาแชมป์ของกลุ่มเพื่อคว้าสิทธิ์ดังกล่าว
ลงมาดูทวีปที่ติด ๆ กันอย่าง อเมริกาใต้ กันบ้าง ที่ได้สิทธิ์เพิ่มมาเพียงแค่ 2 ที่นั่งเท่านั้น แต่ก็เข้าใจได้ เพราะว่าพวกเขามีเพียง 10 ชาติเท่านั้นที่ร่วมชิงชัยกันเพื่อแย่งสิทธิ์ 6 ที่นั่งกับอีก 1 โควต้าเพลย์ออฟ
พวกเขายังคงใช้ฟอร์แมตเดิมในการแข่งขันรอบคัดเลือก นั่นก็คือการใช้ระบบลีกแบบพบกันหมด โดยที่หลังจากลงเล่นครบ 18 เกมแบบเหย้าเยือน อันดับที่ 1-6 ก็การันตีเข้ารอบไปเลยทันที และอันดับที่ 7 ก็ไปลุยต่อกับทีมจากต่างทวีป
แชมป์เก่าอย่าง อาร์เจนติน่า ก็กำลังนำเป็นจ่าฝูงของตารางคะแนน และขอชนะอีกเพียงแค่เกมเดียวก็จะคว้าตั๋วเพื่อไปป้องกันแชมป์ได้แล้ว
อ้อมโลกมายัง โอเชียเนีย ที่คนแทบจะลืมจะไปแล้วว่ามีทวีปนี้อยู่ และนี่ก็เป็นหนแรกที่พวกเขาได้การันตี 1 ที่นั่งแบบไม่ต้องไปเพลย์ออฟให้เมื่อยตุ้ม ซึ่งทีมที่ดูทรงแล้วไม่น่าพลาดก็คงจะเป็น นิวซีแลนด์ ที่เหลือเพียงแค่เกมรอบชิงกับ นิวคาเลโดเนีย ในวันจันทร์ที่จะถึงนี้
แต่ถึงแม้พวกเขาจะพลาดก็ยังมีโอกาสให้แก้ตัวในรอบเพลย์ออฟกับทีมต่างทวีปอยู่ดีนั่นแหละ
และสุดท้ายกับทวีปที่ได้โควต้าเยอะที่สุดถึง 16 ทีม นั่นก็คือ ยุโรป นั่นเองครับ ซึ่งพวกเขาใช้วิธีแบ่งเป็น 12 กลุ่ม และแชมป์กลุ่มก็จะได้เข้ารอบโดยอัตโนมัติ ส่วนรองแชมป์กลุ่มอีก 12 ทีมกับอีก 4 ทีมที่อันดับดีที่สุดใน เนชั่นส์ลีก ที่หลุดโผ ก็จะได้สิทธิ์ไปลุ้นอีก 4 ที่นั่งที่เหลือกันต่อไปในรอบต่อไป
พวกเขาเพิ่งเริ่มไปเพียงแค่เกมเดียวเท่านั้นในรอบแบ่งกลุ่ม หลังจากที่โปรแกรมลีกระดับทวีปของพวกเขายังไม่สิ้นสุดลง ซึ่งดูจากโปรแกรมการแข่งขันแล้ว น่าจะเป็นทวีปสุดท้ายที่จะได้รู้ว่าทีมไหนจะได้เข้ารอบไปกันบ้าง
ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ต้องรอลุ้นรอดูรอเชียร์กันต่อไป ว่าทีมรักของเราจะได้เข้าไปร่วมสังคายนาการแข่งขันฟุตบอลที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกได้หรือไม่ แต่บอกได้เลยว่าได้ดูกันตาแฉะแน่นอนกับการที่มีทีมเข้ามาร่วมโม่แข้งกันถึง 48 ทีมในปี 2026
เขียนโดย LS Sport
ข่าวกีฬาคนรุ่นใหม่ 24 ชั่วโมง

